โทเคนกับหุ้น: อนาคตของคริปโต

by:ChainSight1 วันที่แล้ว
1.33K
โทเคนกับหุ้น: อนาคตของคริปโต

การปรับสมดุลใหม่ของมูลค่าคริปโต

หลายปีที่ผ่านมา เรารู้สึกติดกับความขัดแย้ง: ผู้ก่อตั้งอยากแจกโทเคนให้ผู้ใช้ แต่กลัวกฎหมายควบคุมทุกครั้งที่พยายามทำ เช่น ในช่วงไอซีโอ เราสามารถขายโทเคนได้เหมือนไอพีโอของบริษัทได้เลย แต่เมื่อมาถึงคำตัดสินฮาวีย์และกฎระเบียบที่เข้มงวด มันกลายเป็นเรื่องยาก เพราะการขายโทเคนส่วนใหญ่มองว่าคล้ายหลักทรัพย์

แล้วเราทำอะไร? เราเลือกหนีจากโทเคน และสร้างธุรกิจแบบใช้หุ้นแทน

ผมเคยเห็นสตาร์ทอัพระดมทุนหลายล้านดอลลาร์ผ่านVC โดย承诺จะแจกโทเคนในอนาคต แต่ความจริงข้อนี้คือ หากโทเคนของคุณไม่มีมูลค่าบนบล็อกเชน มันไม่ใช่มูลค่าแท้จริง — มันแค่ขนมดิจิทัลอย่างเดียวโดยไม่มีเกราะป้องกันทางเศรษฐกิจ

การถือครองบนบล็อกเชนมีความหมายกว่าการควบคุมนอกบล็อกเชน

ขอชัดเจนเลย: โทเคนควรครอบครองโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ใช่แค่คำ promises เรื่องกำไรในอนาคต เมื่อคุณถือโทเค็นเอเทอร์เน็ตวันนี้ คุณไม่ได้อาศัยหุ้นของบริษัท — แต่อยู่ในการควบคุมตรงๆ เหนือการอัปเกรดโปรโต콜 การเผาฟรี และการเข้าถึงคลังเงินสดผ่าน EIP-1559

นี่แหละเรียกว่าอธิปไตย

แต่ว่าลองนำแนวคิดเดียวกันไปใช้นาฬิกา NFT เชื่อมโยงกับรายได้อะไรบางอย่างนอกบล็อกเชน? ก็กลายเป็นการบอกว่า ‘ฉันมีอำนาจทางกฎหมายเหนือบัญชีธนาคารของเขา’ — สุดท้ายศาลจะมองว่านี่เกินขอบเขตของหลักทรัพย์แน่นอน

ฉันเสนอกรอบการทำงาน:

  • รายได้บนบล็อกเช่น → เป็นกรรมสิทธิ์ของโทเคน
  • ปฏิบัติก่อนบล็อก (เช่น พาร์ทนเนอร์หรือ SaaS) → เป็นกรรมสิทธฺร of shareholders

ฟังดูง่ายไหม? ก็เพราะมันเปลี่ยนมุมมองเรื่องแรงจูงใจอย่างสุดซึ้ง

สภาพจำลอง DAO กับเหตุผลทำไม Governance อาจไม่ง่ายเสมอไป

เราเคยโดนโน้มนำให้มอง DAO เป็น ‘มนุษย์ช่วยโลก’ เหมือนเวอร์ชันกระจายศูนย์ มาแล้วกว่าห้าปี ผมเห็นพวกมันทำงานจริง — จากระบบโหวตก่อให้เกิดภาวะแช่งตาย เพราะขาดความสนใจ จากคณะกรรมการเหล่านี้กลายเป็นผู้วางแผนกลางเหมือนเด็ก ๆ ผมไม่ได้อะไรเสียเพียงเพราะอยากลดบทบาทมนุษย์ ผมแค่อยากหลีกเลี่ยงการเสียเวลา หากระบบอัตโนมัติตัดสินใจได้อย่างมาก (การปรับพารามิเตอร์, การอนุมัติตำแหน่ง) จะมาให้มวลชนหลายแสน คนมาลงคะแนนเสียงเล็ก ๆ?

กฎข้อแรกของผม: มนุษย์อยู่ตรงขอบ — เพียงเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้นครับ พึงปล่อยให้องศาโค๊ดดำเนินตามมาตรฐาน โดยเก็บอำนาจลงคะแนนไว้อยู่เฉพาะกรณีภัยพยากรณ์หรือเงินกองกลางที่จำเป็นต้องใช้วาจาตรึกตรองมนุษย์

และใช่ว่าเครื่องมืออย่าง Wyoming DUNA และ BORG จะไม่มากำหนดรูปแบบใหม่นี้แล้ว? มันมอบสถานะทางกฎหมายแก่องศาโดยไม่จำเป็นต้องทำให้นักลงทุนมายืนอยู่ใน LLC เหลืองๆ อายๆ อีกแล้ว

เพราะทำไมเราจึงไม่อยากไปแบบเต็มรูปแบบเพียงโทเคนเดียว?

บางโครงการอยากออกจากระบบทอดศึกษา — “โมเดลบ้านเดียว” โดยปราศจากหัวหน้าหรือเงินเดือนเจ้าของโครงการ เพียงแค่มอบเอกสิทธฺรบนสายตาตลอดเวลาโดยตรงในตอนเรียนใหม่ Morpho ก้าวไปได้อย่างเหมาะสม เพราะออกแบบมาภายใต้อนามัยของการหายาก, การใช้งาน และอำนาจควบคุมโดยตรงจากผู้ใช้งานต่อเนื่องจากการเรียนใหม่อย่างแท้จริง แต่อย่าประมาท: เส้นทางแห่งการเปลี่ยนอนามัยเหล่านี้ไม่มีภัยแน่นอน เราจำเป็นเงินสนับสนุนคร่าวๆ ในระยะแรก และหากโมเดลมันดูเหมือน FTT (โทเค็นรองจากบริษัทร่วม) โดยปราศจากการควบรวมอธิปไตยเอง เจ้าหน้าที่กำกับดูแลจะเข้าโจมตีไวมากกว่าวิกฤตร้อนใจระหว่าง FOMO อ่ะนะ! The key difference? Real ownership vs contractual dependency. One gives power; the other just promises returns based on someone else’s performance.

ChainSight

ไลค์37.55K แฟนคลับ4.43K

ความคิดเห็นยอดนิยม (1)

SariLintang_77
SariLintang_77SariLintang_77
1 วันที่แล้ว

Token Bukan Coklat Digital

Kalau token cuma janji masa depan tanpa kontrol on-chain, ya sama saja kayak jualan coklat digital yang nggak ada isi—hanya manis di luar.

Saham vs Token: Perang Kuasa

Saya lihat startup banyak pakai saham dulu biar aman dari SEC. Tapi kok malah jadi kayak ‘nanti kita bagi token’? Ya ampun, kapan tuh ‘nanti’-nya?

DAO Itu Seperti Rapat RT Tanpa Jalan Keluar

Pernah lihat rapat DAO? Nge-gas sebentar terus mati lampu karena semua orang males voting. Padahal uangnya udah di sana!

Mau Full-Token? Jangan Lupa Dana Dulu!

Morpho bisa karena mereka serius dari awal. Tapi kalau kamu buat token kayak FTT—dibackup perusahaan—regulator bakal dateng lebih cepat dari flash crash saat FOMO.

Jadi… siapa yang benar-benar punya kendali? Komen deh! 💬

691
54
0