จับหนีไม่รอด

การหนีที่ไม่สำเร็จ

เมื่อได้ยินข่าวว่าชายหนุ่มอายุ 23 คนถูกจับที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองวูดแลนด์ขณะจะหลบหนีออกจากสิงคโปร์ ผมต่างก็หัวเราะเบาๆ ก่อน—เหมือนฉากในหนังระทึกขวัญ低งบเลยนะเนี่ย มันฟังดูเกินจริงมาก แต่เมื่อผมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกลับพบว่า เรื่องราวนี้เป็นความจริง และกำลังเกิดขึ้นอยู่ในศูนย์กลางทางการเงินเทคโนโลยีระดับโลกของเอเชีย

ธุรกิจบัตรเครดิตกลายเป็นฮีโร่

สิ่งที่น่าสนใจคือ การฉ้อโกงจะไม่มีทางสำเร็จหากไม่มีการเฝ้าระวังจากราคาของสถาบันการเงิน เมื่อบางธนาคารสังเกตเห็นการทำธุรกรรมขนาดใหญ่อย่างผิดปกติ และแจ้งเตือนเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมมาอย่างรอบคอบ—ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของมนุษย์ในการควบคุมระบบอัตโนมัติ

เหตุผลทำไมกรณีนี้สำคัญกว่าแค่สิงคโปร์

สำหรับผู้ลงทุนใน DeFi, NFT และตลาดคริปโตโดยรวม สิ่งนี้ควรเป็นคำเตือนให้ตื่นรู้: เครือข่ายกระจายอำนาจ (decentralized) ก็ยังพึ่งพา ‘ผู้เฝ้าระวัง’ เช่นธนาคารและ regulator เพียงพอ หากความโลภหรือความกดดันจากเวลาเป็นแรงผลัก ส่งผลให้เราละเลยตรรกะไป เพราะแฮกเกอร์ใช้เทคนิคจิตวิทยาในการหลอกลวงอย่างแม่นยำ

การวิเคราะห์บล็อกเชนมาร่วมกับตำรวจจริง

ผมมักโฟกัสไปที่รูปแบบธุรกรรมบน Ethereum หรือแนวโน้มค่า Gas Fee ในช่วงตลาดขาลง แต่กรณีเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของการผสมผสานระหว่าง Forensic Blockchain Analysis กับงานตำรวจแบบแท้จริง โดยการตามหาแหล่งเงินไหลผ่านกระเป๋าเงินหลายแห่งระหว่างเหยื่อและผู้ต้องสงสัย เป็นกระบวนการปกติกับสถาบันใหญ่อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่มักมองข้ามไปโดยไม่มีใครทำลายรหัสสมบูรณ์

เราจำเป็นต้องสร้างความร่วมมือมากขึ้น

เมื่ออินสแตนซ์จริงๆ จากภาคเอกชน-ภาครัฐ-เทคโนโลยีทำงานประสานกันได้อย่างรวดเร็ว สุดยอดของระบบทั้งหมดสามารถเปลี่ยนมูลค่ากลายเป็นความ justice เร็วกว่า smart contract จะทำงานเองได้อีกด้วย