ทรัมป์ vs โพเวลล์

คำขู่ดอกเบี้ยของทรัมป์: การโจมตีทางการเงินจากอดีตประธานาธิบดี
ผมเคยเห็นความผันผวนของตลาดมาก่อน แต่ครั้งนี้แตกต่าง—เป็นการโจมตีเชิงวาจาอย่างเต็มรูปแบบต่อธนาคารกลางสหรัฐจากอดีตประธานาธิบดีที่ยังคงโดดเด่นในสื่อสังคมออนไลน์ โดยทรัมป์ประกาศบนทวิตเตอร์ว่า หากเจเรอมี พ้อยเวลล์ไม่ลดอัตราดอกเบี้ยให้เหลือแค่ 1%-2% เขาจะเป็น ‘คนโง่’ และควรถูกปลดออก
ผมขอชี้แจงตรงนี้: ผมไม่ได้มาปกป้องหรือวิพากษ์ใครเลย แต่ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกลไกการเงิน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมเสี่ยงอย่าง DeFi ผมไม่สามารถละเลยสัญญาณทางเศรษฐกิจนี้ได้ เพราะมันไม่ใช่แค่วรรณกรรมการเมือง—แต่มันคือสัญญาณที่มีผลจริงต่อตลาด
ข้อ Claims $1 ล้านล้าน: มูลค่าหรือเพียงภาพลวง?
ทรัมป์อ้างว่าการลดดอกเบี้ยจะช่วยประหยัดเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี การคำนวณเบื้องหลังอาจฟังดูเกินจริง…แต่อย่าเพิ่งปฏิเสธทันที:
- เงินหนี้สหรัฐฯ ~34 ตร.ดอลลาห์
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย ~4.5%
- ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยรายปี ~1.5 พันลบ.
- หากลดเหลือ 2% → ~680 พันลบ. → เหลือประหยัด ~820 พันลบ./ปี
แม้ไม่ถึง $1 พันลบ. ก็ถือเป็นจำนวนมหาศาลที่สามารถนำไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริม R&D และลดภาษีได้
ซึ่งหมายความว่า…แม้มุมมองจะแรงเกินไป ก็มีสาระแทรกอยู่บ้าง — หากยอมรับว่าภาวะเงินเฟ้อควบคุมได้แล้ว…ซึ่งนำไปสู่ข้อกล่าวอ้างถัดไปของเขานั่นเอง
ปฏิกฤษภัยและความหวาดกลัวเรื่องเงินเฟ้อ
ทรัมป์บอกว่า ‘แทบไม่มีเงินเฟ้อ’ โดยชี้ให้เห็นมาตรการภาษีนำเข้าและโรงงานผลิตใหม่ว่าเป็นหลักฐานของเศรษฐกิจแข็งแกร่ง
แต่นโยบายจริงบอกอีกเรื่อง:
- Core PCE (มาตรวัดเงินเฟ้อหลักของเฟดนับ) ~3% — สูงกว่าเป้าหมาย
- ราคาบ้านยังคงแข็ง, เงินเฟ้อบริการยังคงอยู่
- เมื่อกำหนดร้ายแรงลงใน CPI เฉพาะช่วงเวลาหนึ่ง ก็ไม่นำไปสู่ความสงบใจสำหรับผู้กำหนดนโยบาย
โดยที่ทรัมป์วาดภาพเศรษฐกิจสดใส (บางทีย้ำเจตนาร้าย) ส่วนเจเรอมี พ้อยเวลล์จำเป็นต้องทำตามบทบาท — ไม่ใช่มวลชนชอบใจ, เป้าหมายของเขาคือเสถียรภาพราคาและความสมดุลอุปสงค์งานแรงงาน
ความขัดแย้งตรงนี้แหละ…คือแหล่งความเสี่ยงสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับสินทรัพย์อย่าง Bitcoin (ซึ่งปรับเพิ่มน้ำหนักเมื่ออัตราผลตอบแทนจริงลดลง) และ stablecoin (ซึ่งปรับเปลี่ยนตามคาดหวังอัตราดอกเบี้ยก่อน)
ทำไมเรื่องนี้สำคัญสำหรับคริプโตและตลาด?
เปลี่ยนมุมมองจาก ‘ผู้บรรยาย’ เป็น ‘นายทำนาย’: เมื่อมarket เชื่อว่านโยบายลดดอกเบี้ยวันหนึ่งกำเนิดขึ้น—even if just rumors—ตำแหน่งเลเวอราจจะระเหิด, Volatility เพิ่มขึ้น, และกระแสเงินไหลเข้าสู่สินทรัพยากรเสี่ยง เช่นหุ้นและโทเค็นดิจิตอล The DeFi space feel this more intensely than most: low yields on stablecoin deposits push users toward yield-bearing protocols or risky strategies like liquidity mining. The key question now? Will policy-driven expectations outweigh actual data? The answer will shape not just Wall Street… but Chainlink feeds too. And yes, I know what you’re thinking: “John, aren’t you supposed to be analyzing blockchain trends?” Precisely why I’m watching this closely. Macro isn’t separate from crypto anymore— it is the environment we operate in.
QuantSurfer
ความคิดเห็นยอดนิยม (2)

Trump will sparen $1 Billion? Ach nein! Bei uns in Berlin zahlen wir lieber die Zins-Wurst als echte Wirtschaft — selbst wenn die Inflation noch am Kochtopf klebt und Powell seinen Espresso nicht aufgibt. Die Fed hat mehr Stress als ein NFT-Bäcker mit 34 Billion Euro Kuchen — aber bitte mit Butter statt Zinsen! Wer hat schon mal eine Stabilecoin als Brötchen probiert? 😅 #DeFiOderNicht

ट्रम्प vs पॉवेल: ब्याज युद्ध
अरे भाई! क्या हो रहा है? सीधे-सीधे FED के सिर पर मुक्का मारने की धमकी!
ट्रम्प कहते हैं—अगर पॉवेल 1-2% ब्याज नहीं काटेंगे, तो ‘पूरा मूर्ख’ हैं! 😂
लेकिन सच कहूँ? $1 ट्रिलियन की बचत… हमें मज़ाक में सुनाएं।
पर हकीकत? $820 Billion — हाँ, मसला है।
फिर… इनफलेशन कहाँ? सबसे महंगा पड़ता है! 📊
लेकिन crypto world में? जब rate cut की *खबर*आएगी — Bitcoin सोया-सोया पड़ता है! 🚀
अब FED vs President — कोई भी Tension → Crypto ki chutti!
आपको किसका साथ? 💬 ट्रम्प—युद्धभाषण | पॉवेल—शांति?
#TrumpVsPowell #InterestRateWar #CryptoIndia #BullMarket
- สกุลเงินดิจิทัลกับอำนาจการเงินโลก
- Tether และ Rumble: พันธมิตรกล้าเปลี่ยนการใช้ Stablecoin ในโซเชียลมีเดีย
- การแข่งขันใบอนุญาตสเตเบิลคอยน์ฮ่องกง: ทำไมมีเพียงไม่กี่รายที่รอด
- ระบบให้คะแนนสเตเบิลคอยน์ของไวโอมิง: ทำไม Aptos ถึงชนะ Ethereum
- Libra: นวัตกรรมบล็อกเชนและการเติบโต
- กฎระเบียบ Stablecoin: เปรียบเทียบ EU, UAE และสิงคโปร์